หญิงวัย 47 ปี ป่วย ตกงาน ไม่มีเงิน ไม่มีแม้ไฟฟ้าใช้ เสียบออกซิเจนช่วยหายใจ


เพจเฟสบุ๊ก :  มูลนิธิกระจกเงา ได้ออกมาเผยแพร่เรื่องราวของ นางอำนวย แสงจันทร์ ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยเรื่องราวทั้งหมดถูกระบุเอาไว้ว่า.. “เจ้าของบ้านเช่า โทรมาบอกว่า วันนี้จะตัดน้ำตัดไฟแล้วนะ เพราะเขาก็แบกภาระนี้ไม่ไหว ที่ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟแทนเรามาสามเดือนแล้ว หนูก็เข้าใจเขานะ จริง ๆ เขาบอกหนูมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว เขาก็เห็นใจเราแหละ บอกว่าถ้ายังไม่มีค่าเช่าบ้าน จ่ายค่าน้ำค่าไฟมาก่อนก็ได้ บ้านเราก็ใช้ไฟเยอะด้วย เพราะเป็นครอบครัวใหญ่อยู่กันสิบเอ็ดคน”



“เขาก็คุยกับหนูดีนั่นแหละ เขาบอกจ่ายค่าน้ำค่าไฟแทนไม่ไหวแล้ว หนูก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะเราก็ไม่มีจริง ๆ ก็บอกได้แค่ว่า แล้วแต่พี่แล้วกัน หนูก็จุกในใจแล้ว ก็เข้าใจเขา และเกรงใจเขาด้วยที่ต้องมาจ่ ายค่าน้ำค่าไฟให้เรา เพราะมิเตอร์มันพ่วงกัน”



“พอไฟดับ ตอนแรกมันก็ไม่เป็นไรนะ พอสักพักเริ่มร้อน หนูตัวอ้วนด้วย เหงื่อมันก็ออกมาก ลูก ๆ ก็บอกให้หนูมานั่งข้างนอกเพื่อรับลม คราวนี้มันเริ่มเหนื่อย หายใจไม่ออกแล้ว หนูป่วยมาก่อนรักษาที่โรงพยาบาลมาครึ่งเดือน แล้วกลับมาพั กฟื้ นที่บ้าน หมอบอกว่าปอดไม่ค่อยดี เลยต้องใช้เครื่องผลิตออกซิเจนช่วย ก็ติดต่อขอยืมจากมูลนิธิกระจกเงา พอไม่มีไฟ หนูก็ไม่มีออกซิเจน”

“ลูกสะใภ้มองสายไฟแล้ว เขาจะถือปลั๊กไปขอต่อไฟจากบ้านใกล้ ๆ หนูก็บอกว่าอย่าเลย เกรงใจเขา ลูกหลานก็เห็นหนูตัวเริ่มซีดแล้ว มันห อบเหนื่อย เริ่มห ายใจไม่ออก เขาก็ถามหนู ว่าแม่จะเอายังไงดี หนูบอกลูกหลานแล้ว ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เหมือนเราเตรียมใจแล้ว ไม่อยากให้ใครเดือดร้อนด้วย เคยบอกลูกก่อนหน้านี้ “ไม่ต้องไปวิ่งหาอะไรแล้วนะ ปล่อยแม่ไปเถอะ”



“แม่หนูอยู่ต่างจังหวัดก็โทรมาหา ถามว่าทำไมเสียงหนูไม่ดีเลย เสียงดูเหนื่อยจัง เลยเล่าให้แม่ฟังว่าค้างค่าเช่าบ้าน 3 เดือน เลยถูกตั ดน้ำตั ดไฟ ไม่มีออกซิเจนใส่จมูกแล้ว เลยเหนื่อย ๆ แม่ได้ยินแบบนี้เขาก็ร้ องไห้เลย” “แม่ก็บอกว่า แม่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะที่บ้านนอกก็ลำบ ากเหมือนกัน แม่ก็ว่า สู้ ๆ นะลูก หนูก็บอกแม่ว่า “แม่…หนูจะสู้เท่าที่หนูสู้ไหวนะ”

“สักพักน้าชาย โทรกลับมาบอกว่าไปกู้เงินร้อยละยี่สิบ หามาได้หนึ่งหมื่นสามพันบาท ให้เอาไปเคลียร์ค่าบ้านก่อนจะได้มีไฟฟ้าใช้ หนูก็บอกว่าอย่าไปกู้นะ ดอกเบี้ยแบบนี้หนูหามาใช้ห นี้ไม่ไหว สุดท้ ายน้าชายโอนมาแล้ว หนูก็ให้ลูกโอนกลับคืน ให้เอาเงินไปคืนคนให้กู้ หนูไม่อยากให้ใครต้องมาเดื อดร้ อนกับหนู”

“ก่อนหน้านี้หนูกับแฟนทำงานโรงงานกัน แต่หนูไม่ค่อยแข็งแรง เป็นความดันโลหิตสูงกับโ ร คหัวใจ หนูลางานไปหาหมอบ่อย เถ้าแก่เขาเดินมาบอกว่าหยุดงานบ่อยแบบนี้ไม่ไหวนะ หนูก็ปรึกษากับแฟนว่าเราไปทำอย่างอื่นเถอะ พอดีญาติ ๆ เขารับซื้ อของเก่า ก็เลยมาทำต่อจากเขา”



“ตอนมารับซื้ อของเก่าแรก ๆ รายได้ดี ตอนนั้นยังไม่มีได้ออกไปรับซื้ อของเก่าทุ กวัน ก็ทำง านแบบไม่มีวันหยุดเลย หมุนเงินเข้าบ้านได้ทุ กวัน แต่พอเจอ ลูกค้าเริ่มหาย พอยิ่งรอบสองรอบสามไม่มีลูกค้าเลย เพราะลูกค้าที่หนูไปรับซื้ อขวด จะเป็นพวกร้านอาหาร พอเขาเปิดร้านไม่ได้ มันก็กระท บมาถึงการรับซื้ อขวด”

“พอรับซื้ อของเก่ามันไปไม่ไหว แฟนหนูกับลูกเขาเคยทำงานก่อสร้าง ก็ไปหารับจ้ างทำก่อสร้าง ปรากฏว่าเขาก็ให้ปิดงานก่อสร้างอีก พอจะไปรับงานแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามบ้าน คนที่เขาหางานให้เรา ก็มาติดโ ร ค มันก็หางานไม่ได้เลย เราก็พยายามแล้ว เราไม่ใช่คนขี้เกี ยจ แต่ตอนนี้มันไม่มีอะไรง่ ายเลย

เราเป็นครอบครัวใหญ่ อาศัยอยู่กัน 11 คน แค่รายจ่ายค่าอาหารก็มากแล้วต่อวัน เคยมีวันที่ไม่มีเงินจริง ๆ ทั้งบ้านเหลือเงิ น 40 บาท ก็ต้มข้าวต้มใส่เกลือ เงินที่มีก็ซื้อไข่มาเจียวให้หลานกิน


ทุกวันนี้ต้องปิดประตูบ้านไว้ตลอด เวลามีรถไอติมผ่านไม่อยากให้หลาน ๆ เห็น หลานจะถามขอเงินไปซื้อ หนูก็ไม่มีเงินให้ ก็บอกเขาให้อ ด ทน ตอนนี้ยายยังไม่มี หลานก็ถามกลับว่า ทำไมเมื่อก่อนได้กิน ตอนนี้ทำไมไม่ได้กิน เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง

“ก็น้อยใจในชีวิตนะ บางคืนนอนร้องไห้ ถามตัวเองว่าทำไมชีวิตเป็นแบบนี้ ทำไมลำบากขนาดนี้ ต้องมาเจ็บป่วยแบบนี้ ห่วงแต่ลูกหลานว่าจะอยู่กันยังไง เคยฝันว่าจะทำงานเก็บเงิน มีเงินให้ลูกหลานไปตั้งตัว ให้เขาอยู่สบาย ๆ ตอนนี้ความฝันมันพังทลายไปหมดเลย ขนาดเราพยายามทำงานทุ กอย่างที่เราทำได้ ก็ยังไม่พอกินเลย”

นางอำนวย แสงจันทร์ อายุ 47 ปี ผู้ป่วย พักฟื้นรักษาตัวที่บ้าน เมื่อวานลูกชายของคุณอำนวย ติดต่อมายังมูลนิธิกระจกเงา สอบถามว่าเครื่องผลิตออกซิเจนที่ยืมไปให้คุณแม่ที่ป่วย ใช้งาน สามารถต่อพ่วงกับแบตเตอรี่ได้มั้ย เพราะบ้านเช่าถูกตั ดไฟ และจะขอเปลี่ยนเป็นขอยืมถังออกซิเจนแทน

ทีมงานจึงสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และคุยกับเจ้าของบ้านเช่า เพื่อขอความกรุณาผ่อนผันอีก 3 วันขอให้ต่อไฟฟ้า เพื่อคุณอำนวยจะได้ใช้เครื่องออกซิเจนก่อน

ทีมงานเข้าใจทั้งฝ่ายครอบครัวคุณอำนวยและฝ่ายเจ้าของบ้าน ซึ่งรับภาระมาสามเดือนในวิกฤติ เจ้าของบ้านให้ความอนุเคราะห์ต่อไฟฟ้าให้ครอบครัวคุณอำนวยทันที โดยขณะนี้คุณอำนวยค้างค่าเช่าบ้านและค่าน้ำค่าไฟรวมประมาณ 15,000 บ าท

วันที่ชีวิตไม่ขาดทุน คือ วันที่ทำบุญ และให้อ ภั ย วันที่ชีวิตมีกำไร คือ วันที่ตั้งใจทำความดี

ขอบคุณที่มา : มูลนิธิกระจกเงา / jarm / yuddak


ความคิดเห็น